พลมหารสิรวิชญ์ สังกัด ร้อย.อวบ ที่ 1 ร.8 พัน.3 จ .ขอนแก่น ต้องสูญเสียพ่ออันเป็นที่รัก ระหว่างทำภาระกิจประเทศชาติ ช่องอานม้า บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าตัวยื่นยันแม้จะเสียพ่อไปแต่ก็ตั้งใจทำให้ความฝันพ่อเป็นจริงด้วยการเลือกที่สอบนายสิบตามที่พ่อเคยบอกว่า

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านแก่งนาง ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ. มุกดาหาร เป็นบ้านของ พลฯสิรวิชญ์ ไชยเพชร อายุ 21 ปี หลังจากได้ทราบข่าวว่าพ่อของพลทหารได้เสียชีวิต ขณะที่ลูกชายได้เข้าประจำการ ช่องอานม้า บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่ทันได้สั่งลาเพราะล้มป่วยได้ไม่ถึง 3 วันก็เสียชีวิตเมื่อวัน ศุกร์ (12กันยายน 68) ที่ผ่านมา

พลฯสิรวิชญ์ เปิดเผยว่า คุณพ่อ สมคิด ไชยเพชร อายุ 47 ปี เสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกโดยตนเองต้องลากลับมาเพื่อดูพ่อเป็นครั้งสุดท้าย พอมาถึงคุณพ่อก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ไม่นานพ่อก็ได้จากไปอย่างสงบที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการจากไปของคุณพ่อ แต่ยังคงตั้งใจทำให้พ่อได้จากไปแบบภาคภูมิใจในตัวลูก เพราะคนที่ให้ตนเองไปสมัครเป็นทหารก็คือคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเคยเป็นทหารเรือมาก่อน และก็มีความหวังอยากให้ลูกชายเจริญรอยตาม พร้อมกับบอกว่า เมื่อสมัครแล้วให้สอบนายสิบต่อเลย ระหว่างที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่ ช่องอานม้า หลังการสู้รบพ่อก็โทรหาประจำพร้อมกับอวยพรตลอดให้พระคุ้มครองปลอดภัย ตนเองทราบว่าพ่อไม่สบายจากพี่ชาย เลยตัดสินใจลางานเพื่อที่จะมาเยี่ยมพ่อแต่อาการพ่อหนักมาก เลยไม่ทันได้ร่ำลาด้วยการพูดคุย หลังจากนี้ไปก็จะทำตามความหวังที่พ่อตั้งไว้เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ทหารไทย แล้วสอบเป็นทหารนายสิบให้ได้ จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่หลังจากทำ พิธีฌาปนกิจศพพ่อเสร็จ วันที่ 17 กันยายน 68

ด้าน นาย โยธิน (โตโต้) ไชยเพชร อายุ 23 ปี พี่ชายของพลทหารสิรวิชญ์ เปิดเผยว่า ภูมิใจที่มีน้องชายเป็นทหารรับใช้ชาติพอรู้ว่าน้องได้ไปประจำการชายแดน ก็ได้มีการตั้งกลุ่ม โดยมีคุณพ่อ และ น้องชาย ตนเอง เอาไว้พูดคุยให้กำลังใจน้องชายอยู่ตลอด โดยความตั้งใจของตนเองก็อยากให้น้องชาย ทำหน้าที่ในสายงานของทหารรั่วของชาติต่อไป
ในประเทศ